ประสบการณ์ของผู้เรียนเพ้นท์เล็บต่อเล็บ ในรูปแบบ และสถานที่เรียนต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกที่เรียนเพ้นท์เล็บ บทเรียนของการเรียนกับร้านเพ้นท์เล็บ ฝนเคยเปิดร้านขายเสื้อผ้าแถวรังสิตค่ะ แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบต่อเล็บ เพ้นท์เล็บ เลยสนใจอยากทำธุรกิจเพ้นท์เล็บเพิ่มเติม เพราะบางทีเสื้อผ้าก็ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่จะเห็นร้านทำ เล็บหลายร้านมีลูกค้าเข้ากันตลอดไม่ขาดสาย จึงตัดสินใจไปเรียนกับร้านเพ้นท์เล็บที่ฝนเคยไปใช้บริการประจำแถวลำลูกกาแต่ก็ต้องผิดหวังค่ะ รู้สึกว่าไปเรียนแล้วไม่ได้อะไรเลยเหมือนถูกทิ้งมากกว่า เพราะคนสอนต้องไปรับลูกค้า ทั้งๆ ที่เราเสียเงินมาเรียน และเสียรายได้จากการที่ปิดร้านมาเรียนด้วย บางวันเขามีลูกค้าเข้ามาในร้านตลอด เราก็ต้องรอจนกว่า จะรับลูกค้าเสร็จ แถมคนในร้านก็พลุกพล่าน เสียงดัง ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่นัก เพราะการ เรียนเพ้นท์เล็บ สมาธิถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้จำไว และเข้าใจง่าย อีกทั้งเมื่อถามถึเทคนิคเพิ่มเติม ก็จะอ้างด้วยเหตุผลต่างๆ เขาคงกลัวว่าเราจะไปเปิดร้านแข่งกับเขา รู้สึกเสียดายเงินเสียดายเวลา แถมยังไม่ได้เทคนิคอะไรเพิมเติมด้วย ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไปเลยค่ะ สรุปคือเราต้องเสียเงินซ้ำอีกครั้งที่ 2 เพื่อไปเรียนกับสถาบันที่เน้นเรื่องการสอนเพียงอย่างเดียว ตกเป็นทาสแบรนด์เมื่อต้องฝากอนาคตร้านไว้กับผลิตภัณฑ์นั้น ส้มลาออกจากงานประจำมา มีทุนประมาณสี่ห้าหมื่นบาทค่ะ เลยอยากประกอบธุรกิจส่วนตัวสักอย่าง ส้มจึงเลือกไปเรียนต่อเล็บกับแบรนด์หนึ่ง โดยซื้อผลิตภัณฑ์และได้เรียนฟรี แต่พอเวลาเรียนผู้สอนจะมุ่งไปที่แบรนด์ของเขาอย่างเดียว จบแล้วพออยากจะไปใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อื่นก็ทำไม่ได้ เพราะผู้สอนไม่ได้เน้นให้เข้าใจในผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริง สำคัญคือยังต้องซื้อพู่กัน หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำเพิ่มเติมอีกหลายตัว แต่ไม่ได้รวมอยู่ในเซ็ตที่ซื้อไปครั้งแรก สรุปแล้วค่าใช้จ่ายบานปลาย แถมยังไม่รู้อะไรแบบจริงๆ จังๆ งบบานปลายเพราะเลือกเรียนในราคาถูกที่สุด ไก่ตัดสินใจเลือกเรียนกับสถาบันแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเพราะราคาถูกที่สุด และคิดว่าแต่ละสถาบันคงสอนเหมือนๆ กัน แต่พอไปเรียนก็ต้องพบว่าเขาไม่มีผลิตภัณฑ์ให้เรานำกลับบ้าน มีแค่ให้ใช้เฉพาะในห้องเรียนนั้นเท่านั้น หากอยากเอากลับไปทบทวนที่บ้านก็ต้องซื้อผลิตภัณฑ์เพิ่มอีกมากมาย ฝนจึงเริ่มเข้าใจแล้วว่าเหตุผลนี้เอง เขาถึงคิดราคาค่าสอนถูกๆ เพื่อให้เราเอามาซื้อผลิตภัณฑ์ของเขาอีกหลายหมื่นบาท มิหนำซ้ำยังไม่เน้นเรื่องการสอนสักเท่าไหร่แต่จะเน้นการขายผลิตภัณฑ์มากกว่า ยิ่งถ้าใครจะเปิดร้านต้องใช้ผลิตภัณฑ์เยอะๆ เขาจะยิ่งดูแลดี แต่ไก่ไม่ค่อยได้ซื้ออะไรเพราะทุนน้อย เขาก็เลยไม่ค่อยสนใจ แต่ที่แย่ที่สุดรวมๆ แล้วกลายเป็นว่าไก่เสียค่าเรียนแพงกว่าที่อื่น 2 - 3 เท่าตัว ทักษะการเรียนรู้ของคนไม่เท่ากัน นาได้ตัดสินใจเลือกเรียนกับสถาบันแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว เขาจะกำหนดเวลาให้เราเรียนประมาณ 10 วัน สอนเป็นรอบๆ ทุกคนจะเรียนเหมือนกันหมด นาไม่เข้าใจบางวิธีการแต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมาก เพราะเกรงใจเพื่อนในห้องเรียนก็ต้องเลยตามเลยไปซะส่วนใหญ่จนจบ และพอเรียนจบมาได้ประมาณ 1 เดือน แต่ยังไม่ค่อยมั่นใจเพราะตอนเรียนรวมกัน ก็ไม่ค่อยเข้าใจอยู่แล้ว จึงขอกลับไปทบทวนเพิ่มเติมอีก แต่กลับถูกปฏิเสธว่าที่เต็ม กลับมาเรียนซ้ำไม่ได้เพราะถือว่าเรียนจบไปแล้ว สรุปว่าทุกวันนี้นาก็ยังทำธุรกิจเพ้นท์เล็บไม่ได้ ต้องเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ และรู้สึกเซ็งกับธุรกิจนี้ไปเลย                 ด้วยเหตุผลดังกล่าว NSA เห็นใจผู้ที่มีความตั้งใจจริงที่จะประกอบธุรกิจเพ้นท์เล็บ จึงเปิดโอกาสให้เข้ามา เรียนที่ NSA ได้ฟรี!!! ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่ม เพียงนำอุปกรณ์ที่มีอยู่มาเรียน และนำใบประกาศ หรือใบเสร็จมาแสดงเท่านั้น!!!